เจ้าหน้าที่ รพ.ขอนแก่นโวยโครงการสิทธิรักษาฟรีทำคนไข้ล้นไม่ได้นอนไล่ไปรักษาที่อื่น

 

คนไข้ปวดท้องหนักกลางดึก เรียกรถฉุกเฉินไปโรงพยาบาลขอนแก่น เจ้าหน้าที่ถามทำไมไม่รักษา รพ.ใกล้บ้าน โวยสิทธิรักษาฟรีทำคนไข้ล้น จนไม่มีเวลานอน โบ้ยไปรักษาอีกโรงพยาบาลหนึ่งเพราะเงียบเป็นป่าช้า

 


เมื่อเวลา 02:00น. วันที่ 3 ต.ค. 61 ผู้ป่วยรายหนึ่งอยู่ที่บ้านค้อ ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เรียกรถฉุกเฉินของเทศบาลตำบลบ้านค้อ เพื่อนำตัวส่งไปดูอาการที่โรงพยาบาลขอนแก่น เนื่องจากมีอาการปวดท้อง ทางญาติจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาของผู้ป่วย เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่นำคนไข้เข้าห้องเอ็กซเรย์ ระบุว่าพบกล้ามเนื้ออักเสบ
จากการสอบถามลูกชายคนไข้ กล่าวว่า หลังจากเดินทางถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่พาแม่เข้าห้องเอ็กซเรย์ พร้อมกับพูดกับคนป่วยว่า โรงพยาบาลใกล้บ้านอีกแห่งหนึ่งทำไมไม่ไปใช้บริการ ที่นั่นเงียบเหมือนป่าช้าแล้ว กลัวเสียเงินหรอ เพราะสิทธิ์รักษาฟรีคนถึงแห่มาใช้บริการที่นี่ นี่ทำงานยังไม่ได้พักผ่อน ยังไม่ได้นอนเลย ทำงานตลอด หลังจากนั้น แพทย์นำผลเอ็กซเรย์โดยวินิจฉัยว่าคนไข้เป็นกล้ามเนื้ออักเสบ จึงให้กลับบ้านในเวลา 06:00 น.
“ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 61 ลูกชายคนไข้ได้พาแม่ไปตรวจกับแพทย์ที่คลีนิค จ.มหาสารคาม

โดยแพทย์อัลตร้าซาวด์พบว่าไตข้างขวาบวม จึงรีบบอกญาติให้พาผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา พร้อมนำฟิล์มอัลตร้าซาวด์ ไปให้แพทย์วินิจฉัยต่อด้วย วันรุ่งขึ้นจึงพาแม่ไปโรงพยาบาลขอนแก่นตามสิทธิการรักษา พร้อมนำแผ่นอัลตร้าซาวด์ไปให้แพทย์ดูด้วย ในวันนั้น มีเจ้าหน้าที่รายหนึ่งพูดกับคนไข้ว่า “โรงพยาบาลใกล้บ้านไม่มีหรือ ทำไมต้องไปตรวจที่คลินิกต่างจังหวัด ทีหลังถ้ามีเงินก็ไปโรงพยาบาลเอกชน” หลังจากนั้น แพทย์ได้ทำบัตรนัดให้คนไข้ไปพบแพทย์ในวันที่ 7 พฤศจิกายน ในระหว่างนั้น คนไข้มีอาการปวดหลัง และปวดท้อง มาตลอด จึงตัดสินใจไปที่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ซึ่งแพทย์อัลตร้าซาวด์ พบไตบวมข้างขวา ซึ่งตรงกับแพทย์ที่ จ.มหาสารคาม วินิจฉัย จนเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่2 พ.ย. 61 แม่ปวดท้องก่อนแพทย์นัดหมาย จึงเดินทางไปที่โรงพยาบาลขอนแก่น กระทั่งเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ไล่ไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ทั้งที่สิทธิคนไข้อยู่ที่ โรงพยาบาลขอนแก่น ลูกชายคนไข้ย้ำว่า เป็นเจ้าหน้าที่ภายในห้องเอ็กซเรย์ ไม่น่าจะใช่พยาบาลหรือแพทย์ ที่ใช้คำพูดลักษณะนี้กับคนไข้” ญาติผู้ป่วย กล่าว

 

////ยศวิน รัตนโชติ

Related posts