รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ รวมพลังร้อยใจทุกภาคส่วนในพื้นที่ และร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 /2 และกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน
วันนี้ (21 ก.ย.61) ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดฉะเชิงเทรา นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ รวมพลังร้อยใจทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยมีนายกิตติพันธุ์ โรจนชีวะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้การต้อนรับ และรายงานการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีผู้ว่าราขการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 /2 และกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 เห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ.2560-2564 โดยกำหนดวิสัยทัศน์คือ ประเทศไทยเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคด้านการผลิต การบริโภค การค้า และบริการเกษตรอินทรีย์ที่มีความยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีเป้าหมายคือมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 600,000 ไร่ภายในปี 2564 ซึ่งจำนวนเกษตรกรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 30,000 ราย ในปี 2564 เพิ่มสัดส่วนตลาดอินทรีย์ในประเทศต่อตลาดส่งออก โดยให้มีสัดส่วนตลาดในประเทศร้อยละ 40 ต่อตลาดส่งออกร้อยละ 60 และยกระดับเกษตรอินทรีย์วิถีพื้นบ้านเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นร่วมกันในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ของแต่ละจังหวัด ขยายผลครอบคลุมทั้ง 13 กลุ่มจังหวัด 56 จังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นเลขานุการ และคณะกรรมการ ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของกลุ่มจังหวัด และระหว่างจังหวัดกับกลุ่มเกษตรกร และพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ระดับพื้นที่ ให้ครบทั้ง 13 กลุ่มจังหวัด 56 จังหวัด
สำหรับการจัดงาน “มหกรรมเกษตรอินทรีย์ รวมพลังร้อยใจทุกภาคส่วนในพื้นที่” มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความร่วมมือบูรณาการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ระดับพื้นที่กลุ่มจังหวัด อีกทั้งสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกลุ่มเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นนโยบายเกษตรอินทรีย์ของรัฐบาลและแนวทางการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์โดยยึดหลักการทำงานเชิงพื้นที่เป็นหลัก เพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้เป็นที่ประจักษ์ และกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร ให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมทั้งขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ ครอบครัวมทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และสัตว์น้ำในทุกกลุ่มจังหวัด ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้บริโภค เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนสืบไป
